วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สู้เพื่อ.....ไคร

ผ่านมากี่สิบปี มีการสู้รบ มีทหารผู้กล้าล้มตายไปเท่าไหร่ ญาติพี่น้องเราสูญหายไปเท่าไหร่ จิตใจพี่น้องไตเราบอบช้ำมากขนาดไหนไครจะรู้.....จริงไหมนอกจากเราเอง พม่าไช้วิธีทุกๆวิถีทางเพื่อบรรลุสิ่งที่เขาต้องการ ภาษาและวัฒณธรรมของเราต้องไช้อย่างหลบๆซ่อนๆ ที่เราต้องหนีอยู่ประเทศที่ สอง ที่สาม ก็เป็นแผนการแผนหนึ่งเพื่อยืดครองเมืองไตของเราโดยง่าย เรารู้ เรารู้ และเรารู้จริงๆไช่ไหมว่านี่คือสิ่งที่เจ็บปวด เป็นความเจ็บปวดที่ฝังรากฝังลึกไปถึงจิตใจ แน่นอนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ปู่ย่าตายายท่านไม่ลืมแน่นอน ท่านถึงไม่อยากพบเจอชตากรรมแบบนั้นอีก การลี้ภัยสงครามจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อลูกหลานๆ เราซึ่งถือได้ว่าเป็นลูกหลาน เป็นเยาวชนไต ที่ตอนนี้อยู่นอกเมืองไตซึ่งส่วนใหญ่ได้รับรู้ความเจ็บปวดจากการกระทำของพม่า ผ่านรูปภาพ ผ่านการบอกเล่า ผ่านตัวหนังสือเท่านั้น แต่ที่ดีหน่อยตรงที่เดี๋ยวนี้การสื่อสารด้วยเทคโนโลยีต่างๆรวดเร็วมากช่างดีอะไรอย่างนี้.......การที่เราได้อยู่ในประเทศที่ถือได้ว่ามีประชาธิปไตมากกว่าพม่าหลายขุม **ประเทศส่วนใหญ่ยอมรับกันว่าเรื่องของประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรมต่างเป็นค่านิยมสากลไม่มีไครผูกขาดได้และพึงได้รับการส่งเสริมสนับสนุนและปกป้องโดยประชาคมระหว่างประเทศ**(ที่มา....หนังสือ ปลายขอบฟ้าฉาน)แต่การที่เราได้มาอยู่ประเทศที่ปลอดภัยจากการคุกคาม นอนหลับสบายถึงแม้ยังมีอีกหลายคนที่ยังลำบากทั้งๆที่อยู่ในประเทศเดียวกันแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอยางนั้นตลอด ......เราได้รักษาวัฒณธรรม ภาษา การแต่งกาย(ที่มีพี่น้องไตอยู่กลุ่มใหญ่ เช่น เวียงแหง,แม่ฮ่องสอนเป็นต้น)ยังเหนียวแน่นอยู่ แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือวัย15-40ปีที่มาเรียน มาทำงานในเมืองหลวงถึงแม้จะมาเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม(โรงงาน)ก็ตามทำตัวกลมกลืนไปกับสังคมและสภาพแวดล้อม มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หนุ่มๆสาวๆอยู่กินกันมีลูกมาพูดไตไม่เป็นทั้งๆที่พ่อแม่เป็นไต วัยรุ่น 15-25ปีแต่งตัวตามแฟชั่นมากขึ้นนี่ก็ทำตัวกลมกลืนทั้งๆที่ตัวเองไม่ไช่ชนชาติของเขาแต่ทำเพื่อไห้อยู่รอดในสังคม วัยรุ่นชายมีการยกพวกตีกับตามงาน/สถานที่ต่างๆ(นี่ก็ทำตัวกลมกลืน)เป็นเรื่องที่เราเห็นเป็นข่าวกันอยู่เนืองๆ ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่เราเล่นๆกันอยู่ก็มีไห้เห็นทั่วไป การแสดงออกถึงความรักชาติ ภาษาและวัฒณธรรมของไตที่แตกต่างกัน แต่ความแตกต่างมักจะตามมาด้วยความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ด่ากัน ทะเลาะกัน ทั้งๆที่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ถ้าไม่หลงตัวเอง ไม่เอาแค่จุดยืนของตัวเองเป็นที่ตั้งเราก็ไม่ต้องทะเลาะกัน สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นไต มีทุกอย่าง ถูกทุกอย่างทีเราด่าๆกันอยู่มันถูกหมดแหละคะ แต่เรื่องบางเรื่องถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ถูกเช่น ทำไมไม่เขียนภาษาไต ทำไมไม่พูดไต มันก็ไม่ถูกที่ถูกทางที่จะปฏิบัติได้ แล้วจะเถียงกันทำไม สุดท้าย การรักษาวัฒณธรรม ภาษา ประเพณีหรือเรียกง่ายๆ รักษาความเป็นไตไว้ไห้มากที่สุด คือต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ลำดับขั้นตอนอันไหนก่อนอันไหนหลังเป็นไปตามแผนและกฎระเบียบมันถึงจะมั่นคงและถาวร ทุกวันนี้เห็นแล้วอนาถใจกับสิ่งที่พี่น้องไตเราหลงระเริงไปกับสังคมที่ฉาบฉวย จิตใจไม่หนักแน่น ถ้าสักวัน(หรือจนสิ้นลมหายใจ).....ทหารไม่ใช่ผู้ขายแรงงานเพื่อแลกเงิน หากแต่ทหารขายชีวิตเพื่อรักษาชาติบ้านเมืองไว้ซึ่งสังคมอื่นๆ ทำไม่ได้เหมือนทหารแต่ใช่ว่าเป็นทหารแล้วจะต้องยากจนเพราะเมื่อเริ่มต้นด้วยจิตใจเสียสละ แล้ว เขาก็พร้อมทั้งกายและใจที่จะเผชิญต่อวิถีชีวิตของทหาร เพราะฉะนั้นอย่าไช้คำว่าสงสารกับ ทหาร เพราะมันเป็นการหมิ่นเกียรติ ที่ภาคภูมิของทหาร บทความเรื่องนี้ที่ป้า แสงส่า เขียนขึ้นไม่ได้ชี้นำไห้สงสารทหารแต่.....เพื่อไห้พลเมือง(คนไต)ทั้งหลายแหล่ได้สำเหนียกถึงความเสียสละพี่ๆทหารที่ปกป้องรักษาแผ่นดินไตไว้ไห้เราและลูกๆหลานๆว่า ถ้าเราในฐานะพลเมือง(คนไต)ไม่รักษาวัฒณธรรม ภาษา ประเพณีหรือเรียกง่ายๆ รักษาความเป็นไตไว้ไห้มากที่สุด แล้วพี่เขาที่เสียสละจะไม่เสียใจหรอกหรือ นอกจากเราเองจริงไหมหากเราได้เอกราชคืนมาเราจะมีประเพณีวัฒณธรรมหลงเหลือเพียงพอที่จะสร้างเมืองไตและเป็นหลักยืนยันไห้ชาวโลกรับรู้รับทราบว่านี่คือเมืองไตอย่างภาคภูมิได้หรือคะ บรรพบุรุษที่จับปืนต่อสู้ล้มตายและเสียเลือดเนื้อเพื่อที่จะปกป้องแผ่นดินไว้ไห้ลูกหลาน เค้ารู้จะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าสิ่งเค้าหวงแหนนั้นไม่มีคนสืบอุดมการณ์ ญาติพี่น้องเราสูญหายไปเท่าไหร่ จิตใจพี่น้องไตเราบอบช้ำมากขนาดไหนไครจะรู้....ตื่นกันเ้ถอะ หันกลับมามองนิดนึงคะ.............หวังที่จะได้ผลทางจิตใจ ไม่ไช่หวังไห้มาด่าคนเขียน